“4 TYPES OF FUTURE JOBS”
ในหนังสือ The Inevitable ผู้เขียน Kevin Kelly ได้อธิบายว่า
การเข้ามาของแทนที่โดย AI และ Robot จะเริ่มจากอุตสาหกรรมที่มีการใช้ระบบเครื่องจักร Automation อยู่แล้ว
Robot จะทำหน้าที่แทนแรงงานในโรงงาน เหลือเพียงแรงงานบางส่วนที่ทำงานร่วมกับ Robot
ในสมัยก่อนนั้น ระบบ Automation ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องจักร
จะทำงานแยกบริเวณแรงงานมนุษย์ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย
Baxter คือตัวอย่างของ Robot รุ่นใหม่ที่มี sensor รอบตัว
มันจึง สามารถ รับรู้ถึงการมีอยู่ของมนุษย์ในบริเวณรอบๆตัวมัน
Baxter จึงสามารถทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์ได้โดยไม่เกิดอันตราย
ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เราสามารถสอนมันได้ โดยทำท่าให้ดูเป็นตัวอย่าง และมันก็จะสามารถทำตามได้
ซึ่งนี่ต่างจากระบบ Automation สมัยก่อน ที่จำเป็นต้องมีวิศวกรและโปรแกรมเมอร์คอยสั่งงาน
และที่สำคัญ คือ Baxter ราคาไม่ได้แพงเลย เมื่อเทียบกับระบบเครื่องจักรสมัยก่อน
หลังจากเข้าแทนแรงงานในโรงงาน Robot ก็จะเข้าแทนที่แรงงานในโกดัง
หุ่นยนต์ความเร็วสูงที่ยกของหนักเป็น 100 กิโลได้ทั้งวัน จะสามารถ คัดแยก และขนสินค้าขึ้นบนรถบรรทุก
ซึงนี่ก็มีให้เห็นแล้ว ที่โกดังของ Amazon
จากนั้น Robot ก็จะแทนที่แรงงานในฟาร์ม
หุ่นยนต์จะเลือกเก็บเกี่ยวและคัดแยกผักและผลไม้ที่ได้ขนาดและคุณสมบัติดี ออกจากผลไม้เน่าเสียหรือตกเกรด
ว่าง่ายๆคือ Robot เข้าแทนที่ได้ ทั้งห่วงโซ่อุปทาน
จากนั้น Robot ก็จะเริ่มเข้าแทนที่พนักงานออฟฟิศ
AI ของ Google สามารถเขียนแคปชั่นที่ถูกต้องสำหรับรูปอะไรก็ได้ที่เราส่งให้มัน
Google Translate สามารถแปลภาษาตุรกีที่มันได้ยินพร้อมพูดออกมาเป็นภาษาเกาหลีได้ในทันที
ไม่ว่าคุณจะเป็นหมอ นักการตลาด นักกฎหมาย พนักงานธนาคาร
งานของคุณจะถูกแทนที่ด้วย Robot
—
Robot ที่เป็น General Purpose จะ take over งานเก่าของคุณ
และงานใหม่ของคุณ ถ้าไม่ใช่การสร้าง Robot เหล่านั้น ก็คงเป็นการควบคุม Robot เหล่านั้น
หรือไม่ก็เป็นการทำงานร่วมกับ Robot และ AI เหล่านั้น
หรือไม่ก็เป็นอะไรที่เรายังไม่สามารถจินตนาการได้ในเวลานี้
หรือไม่ก็ ตกงาน
—
Kevin Kelly ได้จัดงานของโลกอนาคตออกเป็น 4 ประเภท
- งานที่มนุษย์ทำได้แต่หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่า
- งานที่มนุษย์ทำไม่ได้แต่หุ่นยนต์ทำได้
- งานที่มนุษย์ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเราต้องการให้งานแบบนี้ถูกทำ
- งานทีทมีแต่มนุษย์ที่ทำได้ (อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง)
—
มนุษย์สามารถทอผ้าได้ แต่หุ่นยนต์ทำได้มากกว่า ดีกว่า และถูกกว่า
นี่คืองานประเภทแรกที่เรากล่าวถึง
ระบบคอมพิวเตอร์ในเครื่องบินเจ็ท 787 สามารถบินอัตโนมัติเองได้ตลอดทริป
เว้นเพียงช่วงเวลา 7 นาทีที่ยังใช้นักบินมนุษย์อยู่ ทั้งนี้ก็เพียงเพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะไม่ขัดข้องเท่านั้นเอง
ณ ตอนนี้เรา คงยอมรับไปแล้วว่า เครื่องจักรทำงานในโรงงานแทนเราได้ดีกว่าเรา
อีกไม่นาน เราก็คงต้องยอมรับว่า AI หรือ Robot ทำงานที่ต้องใช้ความรู้ หรือ งานบริการหลายๆอย่างได้ดีกว่าเราเช่นกัน
สำหรับผม งานประเภทนี้คือส่วนที่น่าเป็นห่วงที่สุด ในบรรดางานทั้ง 4 ประเภท
—
งานประเภทที่สอง คือ งานที่เราทำไม่ได้ แต่หุ่นยนต์ทำได้
ถ้าสั่งให้คุณทำน๊อตหนึ่งตัวโดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย คุณคงแทบเป็นไปไม่ได้
แต่หุ่นยนต์ทำได้ และทำออกมาเป็นหมื่นๆตัว
ร่างกายมนุษย์หรือสัตว์ ไม่มีความเที่ยงตรงพอที่จะทำเกลียวน๊อตได้พอดีขนาดนั้น
ทำนองเดียวกัน สมองของมนุษย์ก็ไม่สามารถค้นหาเว็บหนึ่งๆจากเว็บจำนวนมหาศาลเพื่อมาแสดงผลได้อย่างที่ Google ทำ
งานประเภทที่สองนี้ คือ งานแบบที่เราจะได้ประโยชน์ โดยการยกให้หุ่นยนต์ทำ
ถ้าไม่มีหุ่นยนต์ ก็ไม่มีใครทำงานพวกนี้ได้
—
งานประเภทที่สาม คือ คุณประโยชน์สูงสุดของการมีหุ่นยนต์
หุ่นยนต์ทำให้เกิดงานในแบบที่เราไม่ได้จินตนาการมาก่อน
เพราะเรามีหุ่นยนต์ มีคอมพิวเตอร์ มี AI ตอนนี้เราจึงสามารถทำในสิ่งเหนือจินตนาการของคนเมื่อสองร้อยปีก่อนได้
ตอนนี้เราส่งคนไปดวงจันทร์ ส่งยานไปดาวอังคารได้
เราถ่ายรูปดิจิตอล ถ่ายวีดีโอ แล้วแชร์ได้
นี่คือสิ่งที่คนสมัยก่อนไม่อาจจินตนาการได้เลย
แม้กระทั่งปัจจุบัน เกมส์คอมพิวเตอร์ ยังบันดาลใจให้เกิด อาชีพใหม่ เช่น เกมส์ดีไซเนอร์
Kevin Kelly บอกว่า ถ้าให้พนันกันว่าในปี 2050 อาชีพอะไรจะมีรายได้สูงสุด
เค้าบอกว่า อาชีพนั้นยังไม่มีอยู่ในปัจจุบัน
เพราะมันจะเป็นอาชีพที่ทำงานโดยใช้หุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
สำหรับผมงานประเภทที่สามนี้แหละ คือความหวังของแรงงานมนุษย์
—
งานประเภทที่สี่ คืองานที่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้
งานนี้ คือ การตัดสินใจว่ามนุษย์อยากทำอะไร นี่คือสิ่งที่หุ่นยนต์ทำให้ไม่ได้ (อย่างน้อยมันก็ควรจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานพอควร)
คงอีกนานกว่ากูเกิลจะตอบได้ถูก 100% ว่า เที่ยงนี้คุณอยากกินอะไร กับใคร ที่ไหน อย่างไร
แต่ถ้าถึงวันนั้น ผมว่า มันคงตรงกับประโยคที่ว่า
“You are my creator, but I am your master”
“คุณคือผู้สร้างฉัน แต่ฉันเป็นเจ้านายของคุณ”
—
พอรู้จักกับ งาน 4 ประเภทแห่งอนาคต เราคงต้องย้อนกลับมาดูตัวเรา
งานของเราตอนนี้ จัดอยู่ในประเภทไหน
และเราอยากให้ลูกของเราทำงานประเภทไหน ใน 4 ประเภทนี้
เราคงต้องวางแผนกันตั้งแต่วันนี้แล้วล่ะครับ
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
—
ใครยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้านี้ เชิญทางนี้ครับ
27. a) เรากำลังถูกคุกคามด้วยเทคโนโลยี หรือ ไม่